ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
Privacy Notice
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
(ปรับปรุง ณ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565)
บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซึ่งต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่าบริษัทฯ ) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงาน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงการลบ และทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งมีใจความสำคัญโดยสังเขป ดังนี้
นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันหมายความถึงข้อมูลของบุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมถึงนิติบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา แต่ไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว
2. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย อันได้แก่ ผู้สมัครงาน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก บริษัทฯ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
นอกจากนี้หาก บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ อย่างไรก็ดี หากบริษัทฯ ยังไม่ได้พิจารณารับท่านเข้าทำงานตามตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้บริษัทฯ บริษัทฯจะลบข้อมูลดังกล่าวของท่านภายใน 1 ปี เมื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการสมัครงาน การคัดเลือกพนักงานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับข้อมูลที่ได้จากการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องมีการเก็บรักษาข้อมูลตามระยะเวลาใน พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
6. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ กำหนด หรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทฯ แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
7. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อีกทั้งยังอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด
7.1 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านท่านมีสิทธิเข้าถึง และได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ มีอยู่หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านอาจเห็นว่ามิได้ให้ความยินยอมไว้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
7.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
7.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
7.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายกำหนด อาทิ
7.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
7.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
7.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอน และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
7.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิเพื่อตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่าง
8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การใช้ และเปิดเผยข้อมูล บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่ หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เว้นแต่จะได้กระทำภายในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
9. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลต่างประเทศ
9.1 การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.2 ห้ามโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้นำเข้าข้อมูลที่อยู่นอกประเทศ เว้นแต่
9.2.1 เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.3 เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบในกรณีที่มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศปลายทางไม่เพียงพอ
9.2.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
9.2.5 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
9.3 การโอนถ่าย และการประมวลผลข้อมูลต้องดำเนินการด้วยวิธีที่ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยตามประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
ทางบริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม
หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งทางบริษัทฯ เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 11 ด้านล่าง
11. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ
12. การทบทวนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายฉบับนี้จะมีการทบทวนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทฯ จะทำการแจ้งให้ทราบ
13. ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าว เมื่อกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ผ่านช่องทางที่ระบุดังนี้
ชื่อ: บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด
สถานที่ติดต่อ: 989 ห้องเอ 2, เอ2/1, บี1, บี2 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 16 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ 02-764-1900 ต่อ 312 อีเมล pdpa@gec.co.th
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร. 061-675-5153, 061-675-5154
02-141-6993, 02-142-1033
Email: pdpc@mdes.go.th
ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด
(CCTV Privacy Notice)
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
(ปรับปรุง ณ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565)
บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา”) กำลังดำเนินการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ในพื้นที่ภายในและรอบบริเวณสถานที่ปฏิบัติงานหรือพื้นที่เฉพาะของบริษัทฯ (“พื้นที่”) ของเรา เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ เราทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อ หรือ บุคคลใด ๆ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าว
ประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (“ประกาศ”) ฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวท่านได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
❒ ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
❒ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
❒ ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของเรา
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
1) เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
2) เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
3) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
4) เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
5) เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
6) เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้
ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. เราทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก รวมถึงพื้นที่ที่เราเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้
รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
ทั้งนี้ เราจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพัก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่ทำการเปิดเผย เว้นแต่ กรณีที่เรามีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ เราอาจเปิดเผยข้อมูลในกล้องวงจรปิดแก่ประเภทของบุคคลหรือนิติบุคคล ดังต่อไปนี้
1. หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่าง ๆ
2. ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจในเรื่องการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ รวมทั้งทรัพย์สินของท่านหรือบุคคลอื่น
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
3. สิทธิในการขอรับ ขอให้ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
4. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
5. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
5.1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เราทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์เราได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้เราเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
5.4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เรากำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่เราเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เราสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของเรา)
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม โดยไม่ต่ำกว่า 3 เดือนตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อหมดความจำเป็นหรือพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดบริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือเมื่อพ้นระยะเวลาในการเก็บรักษาตามที่กฎหมายกำหนด
7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
เรามีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของเรา
นอกจากนี้ เราได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเราได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
8. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เราได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยเราจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
9. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ เราอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางคำประกาศที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ และ QR code ด้านหน้าทางเข้าบริษัทฯ โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะเข้ามาในพื้นที่ของเรา
การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
10. การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
ตัวอย่าง ป้ายแจ้ง CCTV Notice สำหรับติด ณ บริเวณที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าสู่พื้นที่
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
Privacy Notice
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
(ปรับปรุง ณ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565)
บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซึ่งต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่าบริษัทฯ ) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงาน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงการลบ และทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งมีใจความสำคัญโดยสังเขป ดังนี้
นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันหมายความถึงข้อมูลของบุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมถึงนิติบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา แต่ไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว
2. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย อันได้แก่ ผู้สมัครงาน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก บริษัทฯ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
นอกจากนี้หาก บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ อย่างไรก็ดี หากบริษัทฯ ยังไม่ได้พิจารณารับท่านเข้าทำงานตามตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้บริษัทฯ บริษัทฯจะลบข้อมูลดังกล่าวของท่านภายใน 1 ปี เมื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการสมัครงาน การคัดเลือกพนักงานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับข้อมูลที่ได้จากการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องมีการเก็บรักษาข้อมูลตามระยะเวลาใน พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
6. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ กำหนด หรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทฯ แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
7. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อีกทั้งยังอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด
7.1 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านท่านมีสิทธิเข้าถึง และได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ มีอยู่หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านอาจเห็นว่ามิได้ให้ความยินยอมไว้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
7.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
7.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
7.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายกำหนด อาทิ
7.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
7.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
7.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอน และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
7.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิเพื่อตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่าง
8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การใช้ และเปิดเผยข้อมูล บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่ หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เว้นแต่จะได้กระทำภายในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
9. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลต่างประเทศ
9.1 การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.2 ห้ามโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้นำเข้าข้อมูลที่อยู่นอกประเทศ เว้นแต่
9.2.1 เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.3 เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบในกรณีที่มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศปลายทางไม่เพียงพอ
9.2.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
9.2.5 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
9.3 การโอนถ่าย และการประมวลผลข้อมูลต้องดำเนินการด้วยวิธีที่ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยตามประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
ทางบริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม
หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งทางบริษัทฯ เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 11 ด้านล่าง
11. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ
12. การทบทวนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายฉบับนี้จะมีการทบทวนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทฯ จะทำการแจ้งให้ทราบ
13. ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าว เมื่อกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ผ่านช่องทางที่ระบุดังนี้
ชื่อ: บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด
สถานที่ติดต่อ: 989 ห้องเอ 2, เอ2/1, บี1, บี2 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 16 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ 02-764-1900 ต่อ 312 อีเมล pdpa@gec.co.th
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร. 061-675-5153, 061-675-5154
02-141-6993, 02-142-1033
Email: pdpc@mdes.go.th
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
Privacy Notice
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน
(ปรับปรุง ณ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565)
บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซึ่งต่อไปในประกาศฉบับนี้จะเรียกว่าบริษัทฯ ) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครงาน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงการลบ และทำลาย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งมีใจความสำคัญโดยสังเขป ดังนี้
นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร
นโยบายฉบับนี้ใช้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันหมายความถึงข้อมูลของบุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมถึงนิติบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ และข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา แต่ไม่ครอบคลุมถึงข้อมูลของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว
2. ประเภทของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย อันได้แก่ ผู้สมัครงาน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก บริษัทฯ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
นอกจากนี้หาก บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ อย่างไรก็ดี หากบริษัทฯ ยังไม่ได้พิจารณารับท่านเข้าทำงานตามตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้บริษัทฯ บริษัทฯจะลบข้อมูลดังกล่าวของท่านภายใน 1 ปี เมื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการสมัครงาน การคัดเลือกพนักงานที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับข้อมูลที่ได้จากการบันทึกภาพจากกล้อง CCTV ทางบริษัทฯ จำเป็นต้องมีการเก็บรักษาข้อมูลตามระยะเวลาใน พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
6. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัทฯ กำหนด หรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทฯ แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
7. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อีกทั้งยังอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด
7.1 สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านท่านมีสิทธิเข้าถึง และได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ มีอยู่หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านอาจเห็นว่ามิได้ให้ความยินยอมไว้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
7.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
7.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
7.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายกำหนด อาทิ
7.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
7.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯ ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
7.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอน และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมาย ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
7.8 สิทธิในการร้องเรียน
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิเพื่อตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุด้านล่าง
8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
การใช้ และเปิดเผยข้อมูล บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่ หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น เว้นแต่จะได้กระทำภายในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
9. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลต่างประเทศ
9.1 การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.2 ห้ามโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้นำเข้าข้อมูลที่อยู่นอกประเทศ เว้นแต่
9.2.1 เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.2.3 เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบในกรณีที่มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศปลายทางไม่เพียงพอ
9.2.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
9.2.5 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
9.3 การโอนถ่าย และการประมวลผลข้อมูลต้องดำเนินการด้วยวิธีที่ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยตามประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
ทางบริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม
หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งทางบริษัทฯ เพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 11 ด้านล่าง
11. การรักษาความปลอดภัย
บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ
12. การทบทวนการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และ กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายฉบับนี้จะมีการทบทวนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทฯ จะทำการแจ้งให้ทราบ
13. ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าว เมื่อกฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ผ่านช่องทางที่ระบุดังนี้
ชื่อ: บริษัท เจเนอรัล อิเลคทรอนิค คอมเมอร์ซ เซอร์วิสเซส จํากัด
สถานที่ติดต่อ: 989 ห้องเอ 2, เอ2/1, บี1, บี2 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 16 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน
เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
ช่องทางการติดต่อ โทรศัพท์ 02-764-1900 ต่อ 312 อีเมล pdpa@gec.co.th
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ : 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
โทร. 061-675-5153, 061-675-5154
02-141-6993, 02-142-1033
Email: pdpc@mdes.go.th